“รู้จัก Work-Life Balance แล้วได้เอามาใช้กันบ้างรึเปล่า? “
ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ต่างกันตรงที่นำไปใช้ทำอะไร บางคนให้ความสำคัญกับงานเป็นหลัก บางคนแบ่งเวลามาเพื่อดูแลครอบครัว หรือบางคนก็ใช้เวลาไล่ตามความฝัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนเราสามารถให้ความสำคัญกับทุกอย่างได้ เพียงรู้จักบริหารเวลาให้เกิดความสมดุลในชีวิตด้วย Work-Life Balance หรือการใช้ชีวิตให้สมดุลกันทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต
การมี Work-Life Balance ที่ดีนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน และไม่จำเป็นที่ทั้งสองด้านจะต้องเท่ากันเสมอไป ความสมดุลเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ทุกคนสามารถหาจุดที่พอดีของตัวเองได้ ความพอดีในวันนี้อาจจะไม่เท่ากับความพอดีของวันพรุ่งนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับลำดับความสำคัญของคุณเอง
คุณต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถามตัวเองว่าแนวทาง Work-Life Balance ที่กำลังทำนั้นโอเคหรือไม่ คุณมีความสุขที่จะทำมันไหม อย่าบอกตัวเองว่า “คนนั้นทำแบบนั้นได้ ฉันก็ต้องทำได้” และอย่าให้คนอื่นมาบอกว่าคุณควรจะทำหรือไม่สามารถทำอะไร
สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำคือ การที่คุณกังวลกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับที่บ้านในขณะทำงาน หรือหมกมุ่นกับเรื่องงานขณะที่กำลังอยู่ที่บ้าน คุณจะต้องแยกสิ่งที่ต้องทำที่ทำงานกับที่บ้านออกจากกันอย่างเด็ดขาด ตั้งใจกับการทำงานเมื่ออยู่ที่ทำงานและให้เวลากับตัวเองและครอบครัวอย่างเต็มที่เมื่ออยู่ที่บ้าน
การบอกปฏิเสธในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธคำขอร้องทุกอย่างตลอดเวลา แต่เป็นการปฏิเสธสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ หรือถ้าทำแล้วจะกระทบกับเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน เช่น การปฏิเสธเรื่องงานที่นอกเหนือความรับผิดชอบมากเกินไป หรือปฏิเสธเมื่อมีคนมาชวนไปงานปาร์ตี้ อย่างไรก็ตาม คุณก็ไม่ควรที่จะใช้การพูดที่แสดงถึงความก้าวร้าว หรือใช้คำพูดที่ไม่ดีในการปฏิเสธเช่นกัน
รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากคนอื่นในเรื่องที่คุณไม่สามารถทำได้จริง ๆ ก็จะช่วยให้คุณลดความกดดันจากงานได้ บางครั้งคุณต้องเลิกที่จะเก็บเอางานและปัญหาทุกอย่างไว้กับตัวเอง การเปิดเผยมันออกไปโดยการพูดคุยกับใครสักคน เช่น หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานอาจทำให้คุณแก้ปัญหาที่คิดไม่ตกมานานได้ง่ายขึ้น
เวลาที่จะต้องทำอะไรให้เสร็จสักอย่างหนึ่ง ลองถามตัวเองดูว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จ หรือต้องทำให้เสร็จแบบสมบูรณ์แบบที่สุด และสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จนั้นสามารถทำโดยใครก็ได้ เพียงแค่ให้เสร็จสมบูรณ์ หรือจะต้องทำให้สำเร็จโดยคุณเท่านั้น บางครั้งคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกอย่างให้ออกมาเพอร์เฟ็กต์ เพียงแค่ทำเต็มที่มากที่สุดเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ให้เวลากับตัวเองโดยการทำอะไรบางอย่างที่คุณชอบและสนุกหรือมีความสุขไปกับมัน โดยไม่ต้องให้เวลาหรือ To-do List ต่าง ๆ มาจำกัดขอบเขต เช่น การออกไปทานอาหารค่ำ อ่านหนังสือ ดูทีวี หรือนอนกลิ้งอยู่บนโซฟา รวมไปถึงการปิดการติดต่อที่ไม่จำเป็นต่าง ๆ ด้วย